Custom Search

วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553

Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief เพอร์ซี่ แจ็คสัน กับสายฟ้าที่หายไป





นักแสดง : Logan Lerman, Brandon T. Jackson, Alexandra Daddario, Jake Abel, Pierce Brosnan, Catherine Keener, Sean Bean
วันที่เข้าฉาย : 11 กุมภาพันธ์ 2010

ภาพยนตร์เรื่อง Percy Jackson & The Olympians : The Lightning Thief สร้างจากหนังสือเล่มแรกของนวนิยายชุดขายดี ที่เล่าเรื่องราวของโลกยุคใหม่ วันที่เทพเจ้า 12 องค์แห่งขุนเขาโอลิมปุส (Mount Olympus) ซึ่งสถิตย์อยู่เหนือพื้นโลกมนุษย์ขึ้นไปถึง 600 ชั้นตรงอาคารเอ็มไฟร์สเตท (Empire State Building) อันเป็นสัญลักษณ์ของมหานครนิวยอร์ค (New York) ลุกขึ้นมารังสรรค์การแข่งขันครั้งใหม่ให้เหล่าทวยเทพวัยเยาว์หนุ่มๆ ที่เป็นเดมิก็อด (demigods) หรือกึ่งเทพกึ่งมนุษย์ได้ออกแรงกันบ้าง เซอุส (Zeus) ตั้งข้อกล่าวหาว่า เพอร์ซี่ (Percy) บุตรชายวัยรุ่นของเทพโพไซดอน (Poseidon) เป็นผู้ต้องสงสัยขโมยสายฟ้าฟาด ซึ่งเป็นยุทโธปกรณ์ที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุดในจักรวาล ไปจากเขาเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จากข้อกล่าวหาร้ายแรง และหลีกเลี่ยงสงครามระหว่างทวยเทพที่อาจปะทุขึ้น เพอร์ซี่จำต้องออกผจญข้ามโลกไปจับขโมยตัวจริงมาลงโทษให้ได้ ตลอดการเดินทางครั้งสำคัญนี้เองที่เขาต้องประมือกับเหล่าอริศัตรูจอมโหดตน แล้วตนเล่าที่หมายมุ่งมาสกัดไม่ให้ภาระกิจนี้สำเร็จลุล่วง แล้วยังจะต้องคอยปกป้องพระมารดาจาก เฮเดส (Hades) เทพเจ้ากรีก (Greek god) ที่มุ่งปองร้ายด้วย

Confucius ขงจื้อ


ขงจื๊อ (มงคลซีเนม่า)


กำหนดฉาย : 11 กุมภาพันธ์ 2553
แนว : Epic
นำแสดง :โจวเหวินฟะ (Curse of the Golden Flower, Crouching Tiger, Hidden Dragon), โจวซุน (Perhaps Love, Painted Skin), เฉินเจี้ยนปิน (24 City, Leaving Me, Loving You), เหยาลู่ (Eternal Beloved, One Foot Off the Ground)
กำกับ : หูเหม่ย (On the Other Side of the Bridge)
อำนวยการสร้าง : ฮานซานพิง (Red Cliff I และ II)

ผลงานทุนสร้าง 700 ล้านบาท ฝีมือจากผู้กำกับภาพรางวัลออสการ์ ปีเตอร์ เปา จาก Crouching Tiger, Hidden Dragon และผู้ออกแบบงานสร้าง หยีจงหมั่น แห่ง The Curse of Golden Flower โดยได้นักแสดงเจ้าบทบาท โจวเหวินฟะ มารับบท "ขงจื้อ"

Confucius คือภาพยนตร์ที่สร้างเพื่อเป็นเกียรติให้กับการครบรอบวันเกิดของ ขงจื๊อ ปีที่ 2,560 และเป็นการเฉลิมฉลองครอบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน

ใครคือขงจื๊อ

ลัทธิขงจื๊อก่อตั้งและถูกใช้สอนให้กับผู้มามากกว่า 3 ศตวรรษ ก่อนที่ประเทศจีนจะถูก จิ๋นซีฮ่องเต้ รวมเป็นหนึ่ง ขงจื๊อ เกิดในแคว้นหลู่ช่วงกลียุค ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของมณฑลซางตง ชื่อเสียงของเขาคือการเป็นนักคิดและนักปรัชญา ขงจื๊อ ชนะใจผู้นำแคว้นต่าง ๆ จนได้รับโอกาสดำรงตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการ

แต่ศัตรูทางการเมืองบีบบังคับให้เขาพ้นจากตำแหน่ง ขงจื๊อ ใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในการท่องไปตามหัวเมืองต่าง ๆ โดยการสอนและมีลูกศิษย์ผู้เลื่อมใสติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ในช่วงกลียุคที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและสงครามระหว่างเมือง เขาได้สอนถึงความสำคัญของอารยธรรม ศีลธรรม และการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม บรรดาลูกศิษย์ของเขาได้รวมรวบคำสอนเอาไว้ใน คัมภีร์หลุนอวี่ ซึ่งถูกตีพิมพ์เอาไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว

ตาม หลักฐานทางประวัติศาสตร์ ขงจื๊อ จากโลกไปด้วยความรู้สึกผิดหวัง แต่คำสอนของเขาก็กลับขึ้นมามีชีวิต ราชวงค์แล้วราชวงค์เล่า คนรุ่นแล้วรุ่นเล่า หลักคำสอนของ ขงจื๊อ กลายเป็นฐานหลักที่มั่นคงของอารยธรรมชาติจีน ภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเรื่องราวของชีวิตที่ต้องระหกระเหินของนักปราชญ์ ผู้ยิ่งใหญ่ และอาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก
เรื่องราวใน Confucius

ประเทศจีนในยุคชุนชิว ซึ่งเป็นยุคแห่งการแย่งชิงอำนาจของเจ้านครต่าง ๆ ที่ต่างต้องการขยายอาณาเขต แคว้นหลู่ก็ไม่แตกต่างกัน เมื่อผู้นำแคว้นไม่มีอำนาจใด ๆ เพราะอำนาจที่แท้จริงนั้นก็ถูกกระจายให้กับสามตระกูลใหญ่ตามหัวเมือง

เจ้านครหลู่รู้สึกประทับใจการทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการของ ขงจื๊อ เขาเชื้อเชิญให้ ขงจื๊อ มาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ และมอบหมายให้เขาเป็นผุ้สำเร็จราชการหลวง สิ่งแรกที่ ขงจื๊อ ได้กระทำก็คือการช่วยเหลือทาส ที่ไม่ต้องการถูกฝังทั้งเป็นไปพร้อมกับเจ้านายที่เสียชีวิต แต่ความสำเร็จของเขาทำให้ นายพล กงซานหนิว แห่งกองทัพแคว้นหลู่รู้สึกเป็นปฏิปักษ์

ในศาล ขงจื๊อ ได้สาธิตในเรื่องการใช้ศีลธรรม รวมถึงวางแผนการอันชาญฉลาดในการยึดหัวเมืองทั้งสาม ที่สูญเสียไปให้กับแคว้นชีเมื่อสามทศวรรษก่อน โดยแผนการขั้นต่อไปของเขาก็คือการนำตระกูลทั้งสามกลับมาอยู่ภายใต้การปกครอง ของแคว้นหลู่ โดยการสั่งให้พวกเขาทำลายกำแพงที่สูงตระหง่าน ซึ่งเป็นเครื่องหมายของการไม่ยอมรับการปกครองของเจ้านครหลู่

แต่แล้ว ขงจื๊อ ก็ถูกลอบแทงข้างหลัง เมื่อเจ้านครชีแอบส่งเครื่องกำนัลไปให้เจ้านครหลู่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปลดตำแหน่งของ ขงจื๊อ และขับไล่ของจากอาณาจักร ขงจื๊อ ต้องลาจากครอบครัวด้วยความอาดูร และเริ่มชีวิตใหม่ในการเป็นนักปราชญ์เร่ร่อน เขาเดินทางไปพร้อมกับลูกศิษย์ที่เลื่อมใส นำโดย เอี๋ยนหุย ซึ่งยืนยันว่าจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปทุกหนทุกแห่ง

ขงจื๊อและศิษย์เอกได้รับจากต้อนรับจากแคว้นวุย ที่หมายจะใช้ประโยชน์จากความรู้ของ ขงจื๊อ ให้มากที่สุด โดยอำนาจลับที่อยู่เบื้องหลังบัลลังค์เจ้านครก็คือนางสนมเอกที่ชื่อ หนานจื่อ ความใกล้ชิดของนางทำให้ ขงจื๊อ และลูกศิษย์รู้ดีว่าถึงเวลาแล้วในการออกเดินทางต่อ พวกเขาร่อนเร่ไปทั้งอาณาจักรอื่น ๆ จนกระทั่ง ขงจื๊อ ชราภาพ

ใน ขณะเดียวกันแคว้นหลู่ก็ถูกคุกคามโดยแคว้นชีอีกครั้ง พวกเขาออกตามหา ขงจื๊อ และชักชวนให้เขากลับมาช่วยปกป้องบ้านเกิด แต่ความอับอายที่เป็นตัวการในการขับไล่ ทำให้บุตรชายของเจ้านครหลู่จึงชักชวน หย่านฉิว ซึ่งเป็นนักรบฝีมือฉกาจและเป็นศิษย์เอกอีกคนของ ขงจื๊อ ในที่สุดพวกเขาก็พบ ขงจื๊อ ในอาณาจักรเฉิน เอี๋ยนหุย อ้อนวอนให้ ขงจื๊อ ปล่อยให้ หย่านฉิว กลับไปแคว้นหลู่

เมื่อฤดูหนาวเดินทางเข้ามา ขงจื๊อ และลูกศิษย์ต่างต้องทรมานกับความหนาวเหน็บ ในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางหาบ้านหลังใหม่ เมื่อธารหิมะที่ใช้เดินทางแตก เอี๋ยนหุย ก็เป็นผู้ที่ช่วยรักษาตำราของ ขงจื๊อ เอาไว้ได้ แต่ก็พบกับจุดจบที่น่าเศร้า ขงจื๊อ ที่จมอยู่กับความเศร้าโศกจึงมีนิมิตรถึง เหล่าจื๊อ ผู้นำทางจิตใจของเขา
ลูก ชายของผู้สำเร็จราชการนครหลู่ พบกับ ขงจื๊อ และมอบของกำนัลจากบิดาก่อนที่จะสิ้นใจเป็น "แหวนหยก" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันระหว่าง ขงจื๊อ และบ้านเกิด ขงจื๊อ ตกลงที่จะเดินทางกลับมายังแคว้นหลู่ แต่ก็กลับมาในฐานะเพียงอาจารย์ เขาไม่ยอมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก และเขาก็รักษาสัญญาไว้จริง ๆ เมื่อ ขงจื๊อ ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตในการศึกษาตำราและแก้ไขบทกลอนและเขียนถึงประวัติ ศาสตร์
เกร็ดระหว่างการถ่ายทำ

• Confucius ใช้เวลาถ่ายทำกว่า 8 เดือน ตั้งแต่ฤดูหนาวที่เย็นยะเยือก จนถึงฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยการถ่ายทำฉากสงครามที่มีการใช้ไฟ นักแสดงประกอบต้องสวมชุดเกราะที่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโล

• ฤดูหนาวในเดือนมีนาคม โจวเหวินฟะ ต้องถ่ายทำฉากที่เขานอนลงในบ่อโคลน โดยต้องถ่ายทำฉากนี้ถึง 13 ครั้ง

• เมื่อ 2,500 ปีก่อน ผู้คนมักจะนั่งคุกเข่าแทนที่การนั่งขัดสมาธิ ดังนั้นในระหว่างการพักถ่ายทำ โจวเหวินฟะ ก็จะนั่งคุกเข่าทุกครั้ง เพื่อที่จะได้เข้าถึงความเป็นอยู่ของคนในยุคชุนชิวมากขึ้น

• ทีมงานทุกคนในกองถ่ายรู้สึกว่า โจวเหวินฟะ เป็นนักแสดงที่ไม่ถือตัวและจริงใจ โดยเขาจะจับมือทุกคนในเวลาที่ต้องการทักทายและแสดงความยินดี ซึ่งทำให้ทุกคนเห็นถึงความเป็น ขงจื๊อ ในจิตวิญญาณของนักแสดงคนนี้

• ชุดที่ โจวซุน สวมในการรับบทเป็น หนานจื่อ ทำด้วยมือมาจากมรกตแท้และขนนกยูง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่และความรู้สึกสมจริง ในการแสดงให้เห็นถึงตัวตนของ หนานจื่อ ที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่า "สง่างามแต่ไม่อันตราย"

• ฉากที่ใช้เอฟเฟ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือฉากการบุกโจมตีสามหัวเมือง ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ปะวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในยุคชุนชิ ว โดยนี้ยังถือเป็นการใช้เลนส์กล้องที่มีคุณภาพสูงที่สุด ตั้งแต่มีการใช้กันมาในประเทศจีน

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

The Wolfman




มนุษย์หมาป่า ราชันย์อำมหิต

กำหนดฉาย
: 11 กุมภาพันธ์ 2553
นำแสดง : Benicio Del Toro, Anthony Hopkins, Emily Blunt, Hugo Weaving, Art Malik
กำกับ : Joe Johnston

The Wolfman มนุษย์หมาป่า ราชันย์อำมหิต เผยโฉมภาพสุดสยอง โปสเตอร์ภาพยนตร์แอ็คชั่นหลอนที่กลับฟื้นคืนชีพ ในคืนพระจันทร์เต็มดวง เตรียมเปิดตัวใหญ่ กุมภาพันธ์ 2010

จาก เรื่องราวสยองขวัญที่เป็นตำนานอันน่าสพรึงกลัว ได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นสยองขวัญโปรเจคท์ใหญ่แห่งปี 2010 The Wolfman มนุษย์หมาป่า ราชันย์อำมหิต ซึ่งได้ดารานำชายออสการ์ เบนิซิโอ เดล โทโร่ รับบทเป็น ลอว์เรนซ์ ทัลบอท ชายผู้มั่งคั่งได้ถูกเรียกตัวให้กลับไปยังคฤหาสน์ของครอบครัวเนื่องจากการ หายตัวไปของพี่ชาย เขากับผู้เป็นพ่อที่ไม่ค่อยสนิทกันนำแสดงโดย แอนโทนี่ ฮ็อพกินส์- ก็จำต้องร่วมกันตามหาพี่ที่สาบสูญ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสยดสยองที่ถูกลิขิตให้เขาต้องพบเจอ

ลอว์เรนซ์ ทัลบอทในช่วงเยาว์วัยนั้นจบสิ้นในคืนที่แม่ของเขาตาย หลังจากนั้นเขาก็จากหมู่บ้านเล็กๆที่แบล็คมัวร์แห่งนี้ไป เขาใช้เวลานานหลายสิบปีเพื่อหนีจากอดีตอันเจ็บปวด แต่เมื่อคู่หมั้นของพี่ชาย เกว็น คอนลิฟฟ์ (เอมิลี่ บลันท์) มาขอร้องให้เขาช่วย ทัลบอทจึงเดินทางกลับมา และได้พบกลับเรื่องน่าสพรึงเมื่อปรากฏว่ามีสัตว์ที่ดุร้ายและกระหายเลือดไล่ ฆ่าผู้คนในหมู่บ้าน ซึ่งทางสก็อตแลนด์ยาร์ดได้ส่งนักสืบที่ชื่อ เอเบอร์ลิน (ฮิวโก้ วีฟวิ่ง) มาทำการสืบคดีนี้

ในขณะที่ทัลบอท ค่อยๆสืบหาความจริงนั้น เขาได้ยินถึงเรื่องของคำสาปที่ทำให้คนกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนพระจันทร์เต็ม ดวง เขาจึงต้องวางแผนล่าเจ้าสัตว์ร้ายนี้เพื่อปกป้องหญิงสาวที่เขาเริ่มจะมีใจ ให้ เมื่อการไล่ล่าในคืนพระจันทร์เต็มดวงเกิดขึ้น ชายหนุ่มผู้มีอดีตอันเจ็บปวดก็ได้พบกับด้านมืดที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเองโดยที่ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ผู้กำกับ โจ จอห์นสตัน จาก จูราสสิค พาร์ค 3 ร่วมงานกับนักสเปเชี่ยลเอฟเฟคท์มือเยี่ยม ริค เบเกอร์ ผู้ได้รับออสการ์มาแล้วถึง 6 รางวัล มาสร้างตำนานมนุษย์หมาป่าให้ฟื้นคืนชีพอย่างสมจริงที่สุด เขาจะทำให้ดาราชายอย่าง เบนิซิโอ เดล โทโร่ กลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าได้อย่างไร ติดตามชมได้ใน http://www.thewolfmanmovie.com/

Dorian Greay


ดอเรียน เกรย์ เทพบุตรสาปอมตะ (United Home Entertainment)


กำหนดฉาย
: 28 มกราคม 2553
นำแสดง : เบน บาร์นส, โคลิน เฟิร์ธ, เบน แชปปลิน
กำกับ : โอลิเวอร์ พาร์คเกอร์

เรื่องย่อ Dorian Gray

เรื่องราวของหนุ่มน้อยรูปงามแสนซื่อ ดอเรียน เกรย์ (เบ็น บาร์นส) เดินทางมาถึงกรุงลอนดอน เขาก็ถูกชักนำเข้าสู่วงสังคมโดยเฮนรี วอทตัน (โคลิน เฟิร์ธ) หนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์ ผู้ชี้ชวนให้ดอเรียนมองเห็นความหฤหรรษ์ของเมืองนี้ บาซิล ฮอลล์วอร์ด (เบ็น แชพลิน) ศิลปินผู้เป็นเพื่อนของเฮนรี ได้วาดภาพดอเรียน ซึ่งถ่ายทอดความงามสง่าแห่งวัยเยาว์ของเขาออกมาอย่างทรงพลัง และเมื่อดอเรียนทำพันธะสัญญากับปิศาจ ชายหนุ่มก็สามารถนำวิญญาณของเขาเข้าไปไว้ในภาพวาดนั้นได้ ขณะที่ดอเรียนคงความอมตะเป็นหนุ่มรูปงามเหมือนเดิม ภาพวาดของเขาซึ่งถูกเก็บซ่อนไว้ในห้องใต้หลังคาก็ทวีความน่าเกลียดน่ากลัว ยิ่งขึ้น

How To Be




กำหนดฉาย : 4 กุมภาพันธ์ 2009
แนว : Coming Of Age
นำแสดง : โรเบิร์ต แพททินสัน (Twilight, The Twilight Saga: New Moon), รีเบ็คก้า พีเจี้ยน (Redbelt, Shopgirl, Heist), เจเรมี่ ฮาร์ดี้ (Hotel, Tommy Tough)
กำกับ/เขียนบท : โอลิเวอร์ เออร์วิ่ง (How to Be)
อำนวยการสร้าง : จัสติน เคลลี่ (How to Be)
เว็บไซต์ทางการภาพยนตร์

ครั้งแรกของ โรเบิร์ต แพททินสัน

เอ็ดเวิร์ด แวมไพร์หนุ่มจาก Twilight และ The Twilight Saga: New Moon

ในการรับบทเป็นนักดนตรีหนุ่มสุดเซอร์ ผู้ไล่ตามหาความฝันของตัวเอง

How To Be คือภาพยนตร์แนว coming-of-age ที่เล่าถึงชีวิตของ อาร์ต (โรเบิร์ต แพททินสัน จาก Twilight และ The Twilight Saga: New Moon) นักดนตรีหนุ่มสุดเซอร์ ที่กำลังก้าวเข้าไปในช่วงชีวิตที่เขาเรียกว่า "วิกฤตวัยรุ่น" ซึ่งเกิดจากการที่เขาถูกแฟนสาวทิ้ง แถมยังต้องย้ายกลับเข้ามาอยู่บ้านกับพ่อแม่ ที่ดูไม่ยินดีกลับการมาของเขาเท่าไรนัก

รอนนี่ ชายหนุ่มผู้เป็นโรคกลัวพื้นที่กว้าง และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของ อาร์ต ก็มีปัญหาของตัวเองเช่นกัน เขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์กลางกรุงลอนดอน ที่เต็มไปด้วยข้าวของและเพลงอิเล็คทรอนิค รอนนี่ ต้องการตั้งวงดนตรีร่วมกับ อาร์ต และเพื่อนจอมเวิ่นเว้ออีกคนอย่าง นิคกี้ แต่ความฝันของพวกเขาก็ไม่ได้ก้าวไปไหนเกินกว่าการซ้อมดนตรีบนหลังคาแฟล็ต

อาร์ต ได้รู้จักกับ ดร เลวิ เอลลิงตั้น กูรูผู้แต่งหนังสือพัฒนาตัวเองที่ชื่อ It's Not Your Fault โดยเขาขอร้องให้ ดร เอลลิงตัน ย้ายมาอยู่กับเขาพ่อแม่ และใช้เงินที่ได้จากกองมรดกจ้าง ดร เอลลิงตั้น ให้เป็นผู้ช่วยนำทางชีวิตเขาแบบเต็มเวลา และคอยติดตาม อาร์ต ไปทุกหนทุกแห่ง

How To Be เป็นการเดินทางของ อาร์ต ที่เปี่ยมไปด้วยความสนุกและน่าค้นหา เพื่อที่จะได้ค้นหาความเป็นตัวตนของเขา ทั้งความสัมพันธ์ที่เปราะบางระหว่างเขากับพ่อแม่ และมิตรภาพระหว่างเขาและเพื่อนๆที่มีนิสัยแปลกประหลาด ทุกอย่างถูกสร้างด้วยความละเอียดอ่อน แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน How to Be คือการมองการเจริญเติบโตของวัยรุ่นในยุคปัจจุบัน ที่พร้อมระเบิดพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาตัวเอง

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2553

My valentine



วันเข้าฉาย
: 04/02/2010




เนื้อเรื่องย่อ

เรื่องราวความรักของมายด์ (มิ้นท์ - มิณฑิตา วัฒนกุล) สาวหมวย ที่โชคชะตาเล่นตลกใส่ จู่ๆ ให้กลายเป็นหมวยเลือกได้ ที่มีผู้ชายมาตกหลุมรักหมวย พร้อมๆ กันทีเดียวสามคน ผู้ชายสามแบบที่มาหมุนรอบตัวเธอ มีทั้งแบบที่ตรงใจ แบบที่โดนใจ และแบบที่จริงใจ แต่ในโลกนี้ไม่มีใครหรอก ที่จะสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมไปทั้งหมด มายด์ต้องถามใจตัวเอง ถามเพื่อน ตามใจญาติผู้ใหญ่ หรือปล่อยให้เป็นเรื่องของพรหมลิขิต...ที่จะตัดสินให้


แบบแรก “ แบบที่ตรงใจ ” มิค (จิ๊บ - วสุ แสงสิงแก้ว) หนุ่มใหญ่หน้าตาดี นิสัยดี ฐานะดี การงานดี ดูไฮโซ ได้เป็นแฟนแล้วเหมือนถูกล็อตตาลี่



แบบที่สอง “ แบบที่โดนใจ ” อาร์ท (กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์) ผู้ชายที่ดูแมนๆ ไม่โรแมนติก ไม่เสแสร้ง ดูเหมือนหยาบโลน หรือเข้าขั้นปากเสีย พอไปเจอชายแบบนี้มายด์ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่มักชอบจะไปคบกับผู้ชายแบบนี้ เพราะเขาทำให้มายด์ได้ไปรู้เห็นสิ่งแปลกใหม่ในชีวิต ไม่เคยตามใจกัน ไม่เคยทำในสิ่งที่มายด์ชอบ ไม่ว่าก่อนหรือหลังจากที่เป็นแฟนกัน


แบบที่สาม “ แบบที่จริงใจ ” ก้อง (เปอร์ - สุวิกรม อัมระนันทน์) ผู้ชายธรรมดาที่ดูอบอุ่นและมีอารมณ์ขัน อยู่ใกล้แล้วรู้สึกดี และเป็นเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก ทำอะไรหลายๆอย่างเพื่อมายด์เพราะความรัก มีเวลาไปโน่นมานี่ด้วยตลอดเวลา


ทั้งสามแบบ มีความรักมาให้ในรูปแบบของแต่ละคน วันวาเลนไทน์นี้ ถ้าต้องเลือก มายด์จะตกลงปลงใจไปกับใครนะ ....... ??

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

ตายโหง


เรื่องย่อ ตายโหง

เป็นเรื่องราวสุดสะพรึงที่เคยเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาแล้ว หลายคนอาจจะผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง

หนัง “ตายโหง” ภายใต้การทำงานของ “พจน์ อานนท์” แบ่งเป็น 4 เรื่องหลัก ที่มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง แต่ละเรื่องก็มีผู้กำกับอีกที

“ขึ้นครู” เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งที่มีผู้หญิงถูกฆ่าตาย จนเกิดเรื่องราวความสยองขึ้น นำแสดงโดย ใหม่ เจริญปุระ, กาย-รัชชานนท์ สุขประกอบ, มดดำ- คชาภา ตันเจริญ ผลงานกำกับของ “พจน์ อานนท์”



“คุกกองปราบ”
กำกับโดย “มานุสส วรสิงห์” กับเรื่องราวสุดสยองขวัญในคุกแห่งหนึ่ง นำแสดงโดย “หนุ่ม อรรถพร” และ “เต๊ะ ศตวรรษ”


“ศพแท็งก์น้ำ” น่าจะเคยได้ยินกันบ้าง ที่มีคนถูกฆ่าแล้วเอาศพไปทิ้งไว้ในแทงก์น้ำหอพักแห่งหนึ่ง กำกับโดย “กอล์ฟ-ธัญญ์วาริน” แสดงนำโดย กระแต ศุภักษร, กัส วีรดิษฐ์, ดิว อริสรา, อัญชลี สายสุนทร

multimedia_407_1_p4

multimedia_407_2_p3

“ซานติฆ่า” คงไม่มีใครไม่รู้จักเรื่องราวแสนเศร้าตอนสิ้นปีใหม่ของปีที่แล้วอดีตผับชื่อดัง ซานติก้านั่นเองครับ ผลงานกำกับโดย “ชาติชาย เกษนัส” นำแสดงโดย “กอล์ฟ อัครา” และ “กบ พิมลรัตน์”

28 มกราคมนี้ มัดตราสังทุกโรง

คำโปรยโคตรน่ากลัวเลยครับ จะมีคนกลัวจนไม่ไปดูไหมเนี่ย ยังไงเพื่อความไม่ประมาทจะไปไหนมาไหนก็ดูทางหนีทีไล่ไว้ด้วยแล้วกันนะ


multimedia_407_3_p2


multimedia_407_4_p1


credit-ruamhua.com

วันพุธที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2553

9 วัด หนังน่ากัวที่น่าดู



กำกับการแสดง ศรัญญู จิราลักษณ์
นำแสดงโดย หนังอยู่ในช่วงการแคสติ้ง ขณะนี้มี นุ่น ศิรพันธ์ คนเดียว
เมื่อ เคราะห์กรรม มาหายใจรดต้นคอ เราบริจาคเงินทำทาน เราปล่อยนกปล่อยปลา เราถือศีลกินเจ เราทำบุญโลงศพ เราเปลี่ยนชื่อแซ่ เราไหว้พระ 9 วัด เราคิดว่าทุกสิ่งคงเพียงพอแล้ว...จริงหรือ?

ระหว่างการเดินทางไปแฮงก์เอ้าท์ที่เชียงใหม่ในช่วงวันหยุดยาว ณัฐ (เจมส์ แม๊กกี้) อิลลัสเตรเตอร์หนุ่มเด็กแนว หัวใหม่ รสนิยมดี ทนคำรบเร้าของ ปุ้น (นุ่น-ศิรพันธ์) แฟนสาวคอลัมนิสต์สุดเปรี้ยวของตนไม่ไหว จึงตัดสินใจแวะบ้านที่อุทัยธานีเพื่อเยี่ยมแม่ซึ่งตัวเองไม่ได้พบหน้ามาเกือบ 2 ปีแล้ว นิตยา (ต่าย เพ็ญพักตร์) แม่ของณัฐ ที่เชื่อในเรื่อง "เคราะห์กรรม" และการ "ทำบุญ" อย่างไม่คิดหาเหตุและผล เมือณัฐ กลับมาเยี่ยมบ้าน นิตยา จึงขอร้องแกมบังคับให้ลูกชายไปทำบุญ "9 วัด" เพื่อสะเดาะเคราะห์ แต่ปฏิกิริยาของณัฐกลับเห็นว่าเป็นเรื่องตลกไร้สาระ

จังหวะเดียวกับที่กลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ณัฐ ได้พบกับ พระสุจิตโต (ภราดร ศิรโกวิท) เพื่อนเล่นในวัยเด็กที่กำลังจะออกเดินทางไปธุดงค์ทางภาคเหนือ ณัฐ จึง ชวนซี้เก่าขึ้นรถไปด้วยกัน พร้อมกับแวะทำบุญเล่นๆ ตามวัดที่อยู่รายทาง ทั้งสามเริ่มรู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวที่เข้ามาจู่โจมในรูปแบบอันแตกต่าง และสังหรณ์มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นได้ตระเตรียมให้พวกเขามาร่วมเดินทาง ครั้งนี้ด้วยกัน

หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรี หนึ่งสมณเพศ มุ่งหน้าขึ้นเหนือโดยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่า "เคราะห์กรรม" ที่พวกเขาเคยสร้างไว้ร่วมกันได้ขอ "ติดรถ" มาด้วย! เนื่องจากกรรมไม่เคยลืมที่จะเอาคืน และมันมีวิธีการเอาคืน...ในแบบของมัน






ข้อมูล thaicinema

วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553

Robin Hood

Robin Hood


กำหนดฉาย : 13 พฤษภาคม 2553
นำแสดงโดย : รัสเซลล์ โครว์ (Russell Crowe), เคต แบล็นเช็ตต์ (Cate Blanchett), สก็อตต์ กริมส์ (Scott Grimes), วิลเลี่ยม เฮิร์ต (William Hurt), เควิน ดูแรนด์ (Kevin Durand), อลัน ดอยล์ (Alan Doyle)
กำกับ : ริดลี่ย์ สก็อตต์ (Ridley Scott)

ดรีมทีม ออสการ์ จาก Gladiator รัสเซล โครว์ , ผู้กำกับริดลี่ย์ สก็อตต์ และสุดยอดดาราสาว เคต แบล็นเช็ตต์ ร่วมงานกันในแอ็คชั่นผจญภัยเรื่องยิ่งใหญ่ Robin Hood

รัสเซลล์ โครว์ นักแสดงชายเจ้าของรางวัลออสการ์ (Gladiator, American Gangster) และ เคต แบล็นเช็ตต์ นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ (The Curious Case of Benjamin Button, Elizabeth: The Golden Age) กลับมาพร้อมผลงานเรื่องใหม่ของผู้กำกับ ริดลี่ย์ สก็อตต์ (Gladiator, American Gangster) ใน Robin Hood ภาพยนตร์แอ็กชั่นผจญภัยเรื่องนี้ ซึ่งทำให้โครว์กับสก็อตต์ ได้กลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งที่ 5 อำนวยการสร้างโดยเจ้าของรางวัลออสการ์ ไบรอัน เกรเซอร์ (A Beautiful Mind, American Gangster)

รัสเซลล์ โครว์รับบทเป็นจอมโจรที่คนทุกรุ่นทุกวัยรู้จักกันดีอย่าง "โรบินฮู้ด" จอมโจรผู้หาญกล้า และเป็นผู้จุดประกายจินตนาการของคนที่รักการผจญภัยเช่นเดียวกับเขา ในอังกฤษ ศตวรรษที่ 13 โรบินและกองโจรของเขาเผชิญหน้ากับการคอรัปชั่นในหมู่บ้านท้องถิ่น และเขาได้เป็นผู้นำการก่อจลาจลกับราชบัลลังก์ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสมดุลแห่งอำนาจของโลกไปตลอดกาล ไม่ว่าโรบินจะเป็นโจรหรือฮีโร่ แต่ชายผู้มีจุดกำเนิดอันแสนต่ำต้อยจะกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของอิสรภาพของคนของเขาไปตลอดกาล

ภาพยนตร์โรบินฮู้ดเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวชีวิตของนักแม่นธนู ที่แต่เดิมเคยสนใจแต่เรื่องการเอาตัวเองให้รอดเท่านั้น จากการเป็นทหารประจำกองทัพของพระเจ้าริชาร์ดที่สู้รบกับฝ่ายฝรั่งเศส เมื่อพระเจ้าริชาร์ดสิ้นชีพ โรบินเดินทางไปยังเมืองน็อตติ้งแฮม เมืองที่กำลังทุกข์ยากจากการคอรัปชั่นของนายอำเภอจอมกดขี่ข่มเหง และการเก็บภาษีอย่างไม่เป็นธรรม ที่นั่น โรบินตกหลุมรักม่ายสาว เลดี้แมเรี่ยน (แบล็นเช็ตต์) หญิงสาวที่เกิดความกังขาในตัวตนและแรงจูงใจของชายหนุ่มจากป่าลึกผู้นี้ ด้วยหวังว่าจะได้หัวใจของแม่หญิงแมเรี่ยน และช่วยหมู่บ้านเอาไว้ โรบินได้รวบรวมแก๊งค์ที่มีฝีมือในการสู้รบขึ้นมา พวกเขาได้ร่วมมือกันปล้นสดมภ์คนรวยเพื่อชดเชยต่อความไม่เป็นธรรมภายใต้การปกครองของนายอำเภอโฉด

เพราะประเทศชาติอ่อนแอจากการสู้รบนานหลายทศวรรษ รวมถึงการปกครองอย่างไร้ประสิทธิภาพของกษัตริย์องค์ใหม่ และความอ่อนแอ จนถึงการก่อจลาจลจากภายในและภัยศึกจากภายนอก โรบินและแก๊งค์โจรของเขาตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ขึ้น ชายที่ไม่น่าจะกลายมาเป็นฮีโร่ได้ รวมถึงพันธมิตรของเขารวมกำลังกันปกป้องประเทศชาติจากการเกิดสงครามกลางเมืองนองเลือด และคืนความรุ่งโรจน์ให้กับอังกฤษอีกครั้ง