เรื่องย่อ
เรื่องราวของสามโจร ป่าน,ปอ,สิงห์ ที่รวมหัวกันวางแผนปล้นรถขนเงิน แต่เคราะห์กรรมทำให้ถูกไล่ตามจับ เมื่อจนมุมตัดสินใจนำเงินที่ปล้นมาได้แอบซ่อนไว้ในวัด และเมื่อย้อนกลับมาขุดหาเงินจึงรู้ว่า ที่ซ่อนเงิน อยู่ใต้โบสถ์ โจรร้ายจึงตัดสินใจปลอมตัวแฝงเข้ามาในวัดด้วยการบังคับให้หลวงตาบวชให้ที่ วัดแห่งนี้ เหล่าบรรดาพระทั้งหลายต่างรู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของกลุ่มพระใหม่ที่มักลอบ เข้าไปขุดพื้นโบสถ์เวลากลางคืน
ในขณะเดียวกันทางด้านมัคทายกของวัดเองก็วางแผนขโมยพระในโบสถ์เดียวกับที่โจร พยายามขุดหาเงินที่ซ่อนไว้เรื่องเลยโอละพ่อเมื่อโจรจับโจรได้จนสมบทบาท ทำให้พระในวัดต่างเลิกคลางแคลงใจเหล่าบรรดาพระใหม่ และนี่คือจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์พลิกผันที่ยากเกินคาดเดาเมื่อกิเลศ ความเลว และความโลภเข้าครอบงำถึงส่วนลึกในจิตใจคน คิดดีทำดี สิ่งนี้จะยังคงสถิตอยู่บนโลกใบนี้จริงหรือ
สมชาย เข็มกลัด รับบท ป่าน
พี่ชายร่วมแม่ของปอ ป่านอายุราวยี่สิบเจ็ดปี สูงไล่กับปอ สันทัด ผมยาว ใช้ชีวิตกร้าน และโชกโชนจากการออกไปใช้ีชีวิตข้างถนน รักน้องถึงจะขัดแย้งกันบ่อย รักเพื่อนแต่ไม่ไว้ใจคน พูดเก่งและมีความสามารถในการโน้มน้าว เขาชอบสอนปอในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้ ป่านใจเย็น ลึก ๆ เป็นคนมีสำนึกดี แต่แสดงออกมาเพื่อข่มให้คนอื่นกลัว แขนขวาของป่่านมีร่องรอยการต่อสู้เป็นรอยตะเข็บเย็บ ด้วยความอยากได้เงินมารักษาแม่ที่ตาบอด จึงร่วมมือกับสิงห์
เรย์ แมคโดนัล รับบท สิงห์
เพื่อนนักเลงรุ่นไล่เลี่ยกับป่าน ผมยาวรุงรัง สักยันทตร์ที่ต้นแขนทั้งสองข้าง ดูดบุหรี่เกือบตลอดเวลา ผิวดำแดง ตาแข็งแต่ซ่อนความหวานเจ้าชู้ เป็นคนโผงผาง กักขฬะ วู่วามใจเร็ว และทำตามอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะแน่นอน สิงห์มีบุคลิกสองหน้า พร้อมหลอกทุกคน อาศับความเก๋าในประสบการณ์ เป็นคนโลภหวังเอาแต่เงิน
อินทิรา เจริญปุระ รับบท น้ำผึ้ง
โสเภณีเบอร์เด่น เธออายุยี่สิบต้น ๆ ผอมบาง ผิวสีน้ำผึ้งสมชื่อ เป็นเมียสิงห์ แต่ก็มีคู่ขาหลายคนที่มาอุดหนุน ขอบตาช้ำจากการใช้ยาตลอดเวลา พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเวลาทำงาน ย้ำคิดย้ำทำ หวาดระแวง เป็นผู้หญิงเจนโลกตามอาชีพ ช่างฉอเลาะ เอาใจ แต่ก็ขี้รำคาญ แต่ถ้าเป็นเรื่องผลประโยชน์ น้ำผึ้งจะคิดมากเป็นสามเ่ท่า ยอมเอาตัวเข้าแลกเืพื่อจะให้ได้มันมา
ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับบท ปอ
ชายหนุ่มวัยเบญจเพส สูงกลาง ๆ แต่งตัวเซอร์ ปล่อยหนวดขึ้นโดยไม่โกน บุคลิก เงียบ เชื่อมั่นแต่แน่วแน่ในความคิดจนดูเหมือนหัวแข็ง รักแม่ และพี่ชาย ไม่ยอมคน แต่ใจเย็น อดทนแต่ไม่ปิดบังความรู้สึก อาจเพราะว่าปอโตมากับแม่ ทำให้ปอมีคุณลักษระอ่อนโยนในการเห็นใจผู้คนซ่อนอยู่ ปอมีอาชีพซ่อมรถ จึงเข้ามาอยู่ในแผนปล้น เพราะเป็นคนนำเงินไปซ่อนในวัด เป็นคนเดียวที่รู้ว่าเงินซ่อนอยู่ไหน
เอราวัติ เรืองวุฒิ รับบท สารวัตรเปรม
สารวัตรสืบสวนประจำกองปราบ ชายฉกรรจ์วัยสามสิบต้น ๆ เป็นคนเงียบ แต่พูดตรง บุคลิกน่าเกรมขาม แต่ความจริงเป็นตำรวจฉ้อโกง เป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนการปล้นทั้งหมด โดยเอาความลับมาจากน้ำผึ้ง แล้วไปจ้างสิงห์อีกทอดหนึ่ง
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ รับบท หลวงตาชื่น
สงฆ์ชราวัยเลยหกสิบ ผู้บวชอยู่ใต้ร่มกาสาวพักตร์นานหลายพรรษา เคยเป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังทางไสยศาสตร์ เป็นผู้สำรวมทั้งวาจาและการปฎิบัติ ผิวเหลือง ภายนอกดูแข็งแรงกระฉับกระเฉง สงบเงียบอยู่เสมอ และมักพูดคำบาลีเพื่อเป็นการสอนใจ แต่ลึก ๆ มีความกลัวต่อสังขาร และรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาที่รับเอาสิงห์ ป่าน และปอเข้ามาอยู่ในวัด
ธีรยุทธ ปรัชญาบำรุง รับบท เจ้าอาวาส
เป็นพระนักพัฒนา พูดตรง ขี้สงสัย และไม่ค่อยยอม ระแวดระวังตามประสาคนรับหน้าที่หัวหน้า เป็นคนมีวิสัยทัศน์ และเก่งงานบริหาร
รัชนู บุญชูดวง รับบท นวลเพ็ญ
เป็นแม่ของปอกับป่าน ตาบอดสนิททั้งสองข้าง รักลูกตามวิสัยแม่ สมถะ อยู่อย่างเรียบง่าย เหนี่ยวใจในพระธรรมคำสอน รักและห่วงปอ ลูกชายคนเล็ก จนบ่อยครั้งที่ทำให้ป่าน คิดว่าแม่ไม่รัก
หนังผ่านเซ็นเซอร์
หลังจากอดทนรอและลุ้นสุดสุดชีวิตกับผลงานภาพยนตร์ที่ตัวเองทุ่มเททั้งกายและ ใจสร้างออกมาว่าจะได้ฉายหรือไม่ได้ฉายมาเกือบสามปี ในที่สุดผู้กำกับ “ใหม่-ภวัติ พนังคศิริ” ก็ได้เฮดังๆ เพราะภาพยนตร์ “นาคปรก” มีโปรแกรมเข้าฉายให้คอหนังพิสูจน์ความแรง 18 มีนาคมนี้ทุกโรงภาพยนตร์ หลังจากได้มีโอกาสไปฉายชิมลางให้ฝรั่งตาน้ำข้าวได้ยกนิ้วซูฮกในความเป็นหนัง แอ๊คชั่นดราม่าสุดเข้มข้นที่เต็มไปด้วยชั้นเชิงในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ โตรอนโต ซึ่ง “นาคปรก” ได้รับเกียรติเข้าฉายรอบปฐมทัศน์โลก ซึ่งกว่าหนังเรื่องนี้จะได้ฉายให้คนไทยได้พิสูจน์ความแรงและความกล้าที่ เรียกได้ว่าพลิกทุกประวัติศาสตร์หนังไทยที่เคยมีมา ก็ต้องผ่านการต่อสู้กับกองเซ็นเซอร์ หรือแม้แต่กลุ่มคนที่พิพากษาหนังในทางลบทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ดู ซึ่งทีมงานได้ต่อสู้ทั้งการทำประชาพิจารณ์โดยนำหนังนาคปรกไปฉายผ่านสายตามา แล้วกว่า 1,000 คน ทั้งจากนักศึกษาจากมหา’ลัยทั่วกรุงเทพ และหมู่คณะสงฆ์ ซึ่งกว่า 85 เปอร์เซนต์ต่างการรันตีว่าหนังเรื่องนี้ “แรงจริง...ดีจริง” จนในที่สุดนาคปรกก็ได้ไฟเขียวให้ฉายโดยไม่มีการตัดทอนตัวหนังแม้แต่ฉากเดียว ซึ่งงานนี้ผู้กำกับ “ใหม่ ภวัติ” เผยความรู้สึกว่า
“ต้องขอบคุณหลายๆ ฝ่าย ที่ช่วยกันทำให้นาคปรกได้ฉายครับ ตลอดเวลาสามปีเราก็ลุ้นมาตลอดว่าหนังจะได้ฉายมั้ย ผมในฐานะคนทำ ตั้งใจมาแต่แรกว่าเรามีเจตนาดี แล้วก็มีความเชื่อมาตลอดว่าหนังต้องได้ฉาย คือช่วงที่ลุ้นว่าจะได้ฉายหรือไม่ได้ฉาย ก็ไม่สบายใจมากที่คนกำลังมองเจตนาของเราผิดไป คนที่อยากแบนหนัง พิพากษาหนังไปในทางลบก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ยังไงก็อยากให้เปิดใจและดูสิ่งที่หนังอยากจะบอกก่อน อย่างตอนที่เราไปทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศ เสียงส่วนใหญ่จากคนที่ดูหนังเขาก็ชอบและอินไปกับสิ่งที่หนังอยากจะบอก ตรงนี้เป็นกำลังใจ เป็นความหวังให้เราเสมอมา จนวันนี้หนังกำลังจะได้ฉายโดยไม่โดนตัด หรือเซ็นเซอร์อะไรเลย เพราะมันมีการจำกัดอายุคนดูแล้ว ถ้าโดนตัดไปสักฉากหนึ่ง หนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่นาคปรกแล้ว อยากให้ไปดูเนื้อหาในหนังก่อน ก่อนจะพิพากษาว่ามันดีหรือไม่ดี”
โปรดิวเซอร์ ปรัชญา ปิ่นแก้ว พูดถึงความรู้สึกที่หนังนาคปรกกำลังจะได้ฉายว่า
“ณ วันนี้ที่หนังกำลังจะได้ฉายแล้ว ดีใจมากครับ เพราะตั้งแต่แรกที่เราทำ เรามีความมั่นใจว่า หนังต้องได้ฉาย คนต้องได้ดู คืออยากให้คนดูรู้สึกภูมิใจในความกล้าที่คนจะทำหนังแบบนี้ออกมา จนตอนนี้นาคปรกกำลังจะได้ฉายแล้ว ผมรู้สึกตื่นเต้นที่คนกำลังจะได้ไปดูกัน เราอาจจะมองว่าหนังดูจำกัดอายุคนดูพอสมควร แต่ผมคิดว่าคนดูหนังมีวุฒิภาวะในการดูแตกต่างกันอยู่แล้ว หนังเรื่องนี้ไม่ได้สื่อสารว่าศาสนาเสื่อม แต่คนต่างหากที่เสื่อม บวกกับความแอ๊คชั่นดราม่าที่เข้มข้น รับรองว่าคุ้มค่าการรอคอย ทั้งแง่คิดที่เป็นสิ่งเตือนใจ และสิ่งสอนใจที่เคลือบหนังเรื่องนี้ไว้ ผมว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับสังคมในบ้านเรา แต่ผมยังยืนยันว่าเนื้อหาข้างในนาคปรกไม่ได้ทำให้ศาสนาเสื่อมแต่อย่างใด”
ปล.ตัวอย่างหนังเค้าเอาออกจาก youtube ไปแล้วจ้า ขอโทดด้วยน้าา TT^TT
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น